Wednesday, August 15, 2012

เกรดนั้นสำคัญไฉน

     ที่มาของบล็อกนี้เกิดจากการได้เห็นภาพที่แชร์กันในเฟสบุ๊ค มีข้อความว่า "นักเรียนสมัยนี้เรียนเพื่อไปประกอบอาชีพ หรือมีเกรดสวยๆ ไปสมัครงาน" ในฐานะที่เป็นอาจารย์...เป็นครู จึงอยากเตือนสตินักเรียนนักศึกษา
     ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนเอง ก่อนจะมาเป็นครูอาจารย์ ก็เคยทำงานวิชาชีพมาก่อน เคยสัมภาษณ์รับพนักงานใหม่เองก็หลายรอบ เห็นความสำคัญของการ "ทำงานเป็น" ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร แต่ถามว่าตัวหน้งสือไม่กี่ตัวอักษรนั้น บ่งบอก "คุณภาพ" และ "ความสามารถ" ของคนได้หรือไม่ คำตอบที่มั่นใจเกินร้อยคือ "ได้" แต่มันไม่ใช่ปัจจัย "ทั้งหมด" ที่ใช้ในการ "ตัดสิน" คนและคัดเลือกคนเข้าทำงาน
     เกรดบอกอะไร
     เวลาสัมภาษณ์งาน ขอดูเกรดก่อนเลย มองฟื้บไป เจอ 1 หรือ 2 จุดต้นๆ คำถามแรกเลยคือ ทำไมเรียนได้แค่นี้...เพราะว่าผลการเรียนเป็นตัวบอกว่า คุณมี "ภูมิ" แค่ไหน "ภูมิ" ในที่นี้ ก็คือ ภูมิความรู้ คุณจะมาประกอบวิชาชีพ แต่ไม่มีภูมิความรู้หรือมีน้อยนิดนี่ ก็ไม่ไหวนะ ผู้จ้างเขาต้องเสียเวลามาฝึกมาสอนงาน ยิ่งที่ทำงานในสาขาที่ต้องปฏิบัติเลย เช่น วิทยุโทรทัศน์ ไม่เอาแน่นอน เสียเวลา ยิ่งได้เกรดน้อยๆ ในสาขาวิชาที่ไปสมัครงานนี่ จบเลย (เว้นแต่บริษัทที่ยอมเสียเวลาฝึก ก็รับแต่กดงดเดือน) อย่างจะไปเป็นครูสอนภาษาไทย แต่วิชาเขียนไทย ไวยากรณ์ภาษาไทยนี่ได้ D บ้าง C บ้าง...แปลว่าอะไร แปลว่าขนาดวิชาที่คุณต้องเอาไปใช้ทำมาหากินคุณยัง "ไม่เอา" หรือ "ทำได้แค่นี้" แปลว่าคุณเป็นคนประเภทที่ฝรั่งเรียกว่า ignorant คือไม่สนใจไม่ "เอา" อะไรเลย และคงมีทัศนคติที่ไม่ดีกับวิชานี้ แล้วคุณจะไปสอนให้คนอื่นเรียนวิชานี้ให้ดีให้แตกฉานได้อย่างไร
     บางคนเถียง แล้ววิชาชีพล่ะ อย่างโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ มันต้องการ "ฝีมือ" และ "ประสบการณ์" มากกว่าความรู้ทางทฤษฎีนะ...ก็ใช่หรอก แต่ เกรด ก็ยังเป็นตัวที่บอก "ความเป็นคุณ" ได้อยู่นั่นเอง ถ้าคุณเกรดไม่ดี...มันบอก
     1. ความรู้พื้นฐานไม่แน่น ก่อนผลิตต้องทำอะไร ต้องระมัดระวังเรื่องอะไร การเล่าเรื่องผ่านภาพและเสียงมีเทคนิคอะไร...พอตรงนี้ไม่แน่น การนำไปใช้ก็ต้องพึ่งพาการลองถูกลองผิดอย่างเดียว สอนไปจะจำได้มั้ยเนี่ย (คนรับเข้าทำงาน) ชักเริ่มเสียว
     2. คุณเป็นคนไม่รับผิดชอบ เวลาเรียนไม่เรียน เวลาสอบไม่อ่านหนังสือ เป็นพวก "แนว" พวก "ศิลปิน" อันนี้บอกว่าคุณจะควบคุมได้ยาก สอนยาก ไม่มีใครอยากจ้างคนหัวดื้อ ego สูง (ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรดีจริงในงานวิชาชีพ เพราะเป็นเด็กจบใหม่) ไปทำงานด้วยหรอก
     3. ถ้าคุณตอบว่าคุณเกรดไม่ดีเพราะทำกิจกรรมเยอะ แปลว่าคุณแบ่งเวลาไม่เป็นแล้วมาทำงานจะแบ่งเวลาเป็นมั้ย


     ผู้เขียนเคยเจอนะ ลูฏศิษย์บางคนทำงานดีแต่สอบทฤษฎีตกเพราะไม่สนใจเรียน คิดว่าทฤษฎีไม่มีความสำคัญ ที่่ว่า "งานดี" หมายความว่าดีกว่าที่ผู้สอนคาดหวังไว้ แต่ก็ยังมีส่วนที่ "ถ้าเขามีความรู้ทฤษฎี ที่ "แน่น" กว่านี้ งานของเขาคงจะอยู่ในระดับ "มืออาชีพ" ได้เลยทีเดียว"...เสียดายไหมล่ะ
     ลองคิดดูอีกทีสิว่าเขาจะไปได้ไกลขนาดไหนถ้าความรู้ทฤษฎีเขา "แน่น" จนสามารถหยิบมาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลาทุกครั้ง
     บางครั้ง การเรียนจากการลงมือทำตอนที่มีคนรับเข้าทำงานแล้ว ก็ต้องเสียเวลาทำงาน เสียงานที่ควรจะออกมาดีตั้งแต่ครั้งแรก บางครั้งโดนด่าจนหมดกำลังใจไปก็มี
     ข้อเสียอีกอย่างของนักศึกษาที่ผ่านการทำผลงานเยอะๆ ก็คือ มักจะคิดว่าตัวเอง "เก่ง" แล้ว ทำ "เป็น" แล้ว ซึ่งก็อาจเป็นสาเหตุของการทำให้ไม่ตั้งใจเรียน เพราะคิดว่ายังไงเราก็ทำ "เป็น" และ "ดี"
     แต่หารู้ไม่ว่า คุณก็เก่งเฉพาะในกะลา...ในโลกแคบๆ ในวงเพื่อนฝูง...ก็เท่านั้น คุณเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก แต่คุณก็ไม่รู้หรอกว่าอันไหนผิดหรือถูก เพราะบางทีก็คิดเองเออเอง (ส่วนบางทีที่เหลือก็คือไปค้นหาเอาจากอินเทอร์เน็ต) บางทีคิดว่าทำถูก แต่ถูกแบบผิดๆ ก็เหมือนกับนักศึกษาเวลาถูกสั่งให้จัดงาน event โดยไม่มีคนชี้แนะแนวทางให้ ก็เดากันไป ทำกันไป ผิดก็แก้ให้มันผ่านๆ พ้นๆ ไป สุดท้ายก็ได้ความรูู้เรื่องการจัด event ไปแบบผิดๆ แต่ก็เอาไปพูดแล้วว่า "หนูเคยจัดงาน event"

     สรุปก็คือ การเรียนในห้องเรียน มันมีส่วนช่วยชีวิตการทำงานของคุณได้ และจะช่วยได้มาก ถ้าคุณรู้จักนำเอาความรู้ที่เรียนไปใช้ ถ้าเรียนแล้วลืมไม่นำไปใช้ก็เหมือนไม่ได้เรียนนั่นแหละ ดังนั้น ไม่ว่า "เกรด" จะเป็นตัวช่วยหรือตัวตัดสินอนาคตการทำงานของคุณหรือไม่ แต่สิ่งท่ี่คุณได้จากการเรียนหนังสือนั้น ก็อยู่กับตัวคุณ เป็นประโยชน์กับตัวคุณไปตลอดชีวิต (ถ้าคุณไม่โยนทิ้งเสียก่อน)
     วันนี้คุณไม่รู้หรอก แต่วันหนึ่งข้างหน้า ผู้เขียนหวังว่าคุณจะนึกได้ว่าสิ่งต่างๆ ที่คุณ "เรียนรู้จากการทำงาน" ส่วนใหญ่ก็เป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์พร่ำสอนคุณมาแล้วทั้งนั้นแหละ แต่ความรู้จากปากครูมันมัก "ไร้สาระ" ไม่น่าเชื่อถือเท่ากับสิ่งที่ "พี่ที่ที่ทำงาน" พูด หรือไม่คุณก็ทิ้งมันไปทันทีที่สอบ final เสร็จในแต่ละวิชา
     แต่หากมีวันใดที่คุณนึกได้ ว่าสิ่งที่เรียนไปนั้นไม่ได้ "ไร้ประโยชน์" และ "รู้งี้น่าจะตั้งใจเรียน" วันนั้นก็สายไปแล้ว ย้อนเวลาไม่ไได้และเกรดที่ได้มามันจะติดอยู่ใน transcript เป็นตราบาปของคุณไปตลอดชีวิตการทำงาน (และการศึกษาต่อ)
    "เกรด"...เป็นมากกว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษ และ/หรือ ตัวเลข

1 comment:

  1. ชอบมากๆ เลยครับ

    ReplyDelete